top of page
Search
  • Lottosure

เคล็ดลับและวิธีเล่นไพ่ Poker สำหรับมือใหม่

เกมไพ่ถือเป็นการเล่นที่มีมากมายหลายรูปแบบ และยังเป็นที่นิยมของบรรดานักพนัน เช่น ป็อกเด้ง, เก้าเกย์ หรือแม้กระทั่ง “โปกเกอร์” ก็ยังถือได้ว่าเป็นไพ่ที่ยอดนิยมและมีผู้สนใจและชอบเล่นกันเป็นจำนวนมาก แต่ยังมีนักเดิมพันหรืออีกหลายๆ คนที่ยังไม่เข้าใจในวิธีการเล่นของเกมไพ่ Poker อาจจะเพราะเกมไพ่ชนิดนี้มีรูปแบบและวิธีการเล่นที่ซับซ้อน แต่หากทำความเข้าใจจริงๆ แล้ว ป็อกเกอร์ เป็นเกมไพ่ที่มีความสนุกแล้วเล่นง่ายเกมหนึ่งเลยทีเดียว บทความนี้จึงจะมาบอกและแนะนำวิธีการเล่น Poker ให้กับผู้เล่นและนักเดิมพันทั่งหน้าใหม่และเก่าที่สนใจการเล่นเกมไพ่ชนิดนี้


วิธีการเล่นไพ่โป๊กเกอร์

ไพ่โป๊กเกอร์ ในแต่ละเกมนั้น จะประกอบไปด้วยไพ่สำรับมาตรฐาน 52 ใบ โดยไพ่จะเรียงลำดับกันตามนี้

A = Ace (เอช)

K = คิง

Q = ควีน หรือ แหม่ม

J = แจ็ค

10 = สิบ

โดยจะจัดเรียงตามลำดับจากมากไปหาน้อย A K Q J 10 9 8 7 6 5 4 3 2 (เอซ ถือเป็นไพ่ที่มีแต้มสูงที่สุด) ทุกดอกของไพ่จะไม่มีค่า โดยจะถือว่ามีค่าเท่ากันหมด

เริ่มการเล่นขั้นตอนแรก จะแจกไพ่ให้กับผู้เล่นคนละ 2 ใบ และจะมีไพ่กองกลาง 5 ใบ โดยรูปแบบการเล่นจะมีลักษณะดังนี้

- ก่อนเริ่มเกมจะต้องลงเงินเดิมพัน ตามที่คุยหรือตกลงกัน

- เมื่อถึงรอบการเล่นนั้น นักเดิมพันจะสามารถเลือกได้ว่าจะ ผ่าน เพื่อให้คนอื่นเล่นต่อแบบที่ไม่ต้องลงเงิน, เกย์ทับด้วยการลงเงินให้มากขึ้น, หรือหมอบ เพื่อหยุดเล่นในตานั้นๆ

- จากนั้นไพ่กองกลางจะถูกเปิดออก รอบละ 1 ใบ

- เกมในตานั้นจะจบลงทันที เมื่อทุกคนหมอบจนเหลือผู้เล่นเพียงคนเดียว (คนที่อยู่เป็นคนสุดท้ายจะถือว่าเป็นผู้ชนะในตานั้น)

- ในการเล่นแต่ละรอบนั้น นักเดิมพันจะต้องดูไพ่ทั้ง 2 ใบในมือตัวเอง และนำเอาไปจับคู่ในไพ่กองกลาง โดยใครมีอันดับสูงสุดจึงจะเป็นผู้ชนะ

- แต่ละตา ผู้ที่ชนะหรือมีไพ่สูงสุดจะได้เงินทั้งกองทันที

- ในกรณีที่มีคนขอ All in (ลงหมดหน้าตัก) จะมีการแยกเงินไว้ หากคนที่ลงหมดหน้าตักเป็นผู้ชนะ จะได้เงินในกองที่แยกไว้ แต่หากคนอื่นฝ่ายชนะ ก็จะได้เงินทั้ง 2 กองรวมกัน


วิธีการดูไพ่ ใหญ่-ต่ำ


1. รอยัลฟลัช (Royal Flush) หมายถึง เป็นไพ่ที่สูงที่สุด โดยจะประกอบไปด้วย เอซ คิง แหม่ม แจ็ค และ 10 ซึ่งไพ่ทั้งหมด 5 ใบนี้จำเป็นที่จะต้องเป็นดอกเดียวกันทั้งหมด โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นดอกใดก็ได้


2. สเตรทฟรัช (Straight Flush) หมายถึง การรวมของ สเตรท และ ฟรัช สเตรทที่มีดอกเหมือนกันทั้งหมด ซึ่งหมายถึงไพ่ทั้ง 5 ใบที่จะออกดอกเดียวกันและเรียงเลขกันได้ทั้งหมด


3. โฟร์การ์ด (Four of a kind) หมายถึง ไพ่ 4 ใบที่มีแต้มเท่ากัน


4. ฟูลเฮาส์ (Full House) หมายถึง ไพ่ในมือและกองกลางที่สามารถนำมารวมกันได้ ตองและคู่ โดยจะทำการนับไพ่ตองก่อน


5. ฟลัช (Flush) หมายถึง ไพ่ทั้ง 5 ใบต้องออกมาเป็นดอกเดียวกันทั้งหมด


6. สเตรท (Straight) หมายถึง ไพ่ทั้ง 5 ใบ เรียงแต้มกันทั้งหมด โดยไม่จำเป็นต้องออกดอกเดียวกัน


7. ตอง (Three of a kind) หมายถึง ไพ่ทั้ง 3 ใบ มีแต้มเท่ากัน


8. 2 คู่ (Two pair) หมายถึง ไพ่คู่ทั้ง 2 ชุด


9. 1 คู่ (One pair) หมายถึง ไพ่มีคู่ 1 ชุด


10. ไพ่สูง (High card) หมายถึง หากเปรียบเทียบกับไพ่ทั้ง 9 รูปแบบข้างต้นไม่มีอยู่ ไพ่ที่ดีที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ


75 views2 comments
bottom of page